สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ประกาศคำขวัญวันสันติภาพสากล (1 มกราคม 2017) เน้นวิธีการไม่ใช้ความรุนแรงเป็นการแก้ไขปัญหาการเมือง
ที่พระองค์ได้ใช้คำบ่อยๆว่าเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในโลก อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
สมณสภาเพื่อความยุติธรรม และสันติ
ได้ประกาศคำขวัญนี้ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2016 ว่า ความรุนแรง และสันติภาพเป็นสองวิธีตรงข้ามกันเพื่อสร้างสังคม
การเพิ่มทวีความรุนแรง
ทำให้เกิด ผลต่างๆตามมาด้านสังคมในทางลบรุนแรงมากที่สุด....ตรงกันข้ามสันติภาพ ส่งเสริมผลต่างๆด้านบวกทางสังคม และย่อมเกิดความสำเร็จก้าวหน้าแท้จริง
ดังนั้น เราควรปฏิบัติ (ภายใน) สิ่งที่เป็นไปได้ และหาทางเจรจาใช้วิถีทางแห่งสันติภาพ แม้บางที่ดูเหมือนอ้อมค้อมและปฏิบัติไม่ได้
ทำดังนี้แล้ว
วิธีการไม่ใช้ความรุนแรงสามารถทำให้เกิด ความหมายใหม่ และความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น มิใช่แต่พียงความปรารถนา หรือการปฏิเสธความรุนแรง ข้อขัดขวาง และแรงกระตุ้นด้านทำลายเท่านั้น แต่ วิธีการเมืองจริงๆ ก็ทำให้เกิดความหวัง
วิธีการไม่ใช้ความรุนแรง สไตล์การเมืองเพื่อสันติภาพ เป็นคำขวัญ วันสันติภาพสากล ปีที่ 50 และเป็นปีที่ 4 ในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6
ได้ตั้งวันสันติภาพสากล ใน ค.ศ. 1968 โดยฉลองทุกปีในวันที่ 1 มกราคม สมเด็จพระสันตะปาปาทรงให้คำขวัญพิเศษในโอกาสนี้ โดยส่งสาส์นไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศทั่วโลก และถือเป็นแนวทางของสมณทูตในปีใหม่
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเน้นหัวข้อที่อยู่ในใจของพระองค์ เช่น ภราดรภาพ ยุติการเป็นทาส การค้ามนุษย์บังคับให้ทำงาน การเอาชนะการนิ่งดูดาย ทั้งในระดับส่วนตัว และการเมือง
สาส์น
ของพระองค์มีข้อแนะนำด้านอภิบาลและการเมืองสำหรับทั้งผู้นำของพระศาสนจักร และบรรดาผู้นำนานาชาติ รวมทั้งการพลักดันให้เลิกโทษประหารชีวิต และการอภัยโทษสำหรับนักโทษผู้ถูกตัดสินว่ากระทำผิดทางการเมือง
คำนำในสาส์นปีนี้เน้นว่าวิธีการไม่ใช้ความรุนแรง เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง ที่เน้นกฎหมายเป็นหลัก
หากสิทธิ
และศักดิ์ศรีของแต่ละปัจเจกชนเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกที่รักมักที่ชัง วิธีการไม่ใช้ความรุนแรงก็สามารถเอาชนะข้อขัดแย้งด้านอาวุธ การเจรจาต่อรอง ก็จะสามารถลดข้อขัดแย้ง ถ้ามีความคิดแบบนี้ในใจ ก็จะมีการเคารพอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรมของประชาชน ที่แตกต่างกัน จะไม่มีความคิด
อยู่เหนือกว่า ผู้อื่นอีกต่อไป
วิธีการไม่ใช้ความรุนแรง มิใช่เหมือนกับการนิ่งดูดายต่อโศกนาฏกรรม
แต่พยายามประยุกต์ศิลปะทางการทูตมากกว่าการใช้อาวุธ การค้าอาวุธยังแพร่หลายมาก การสนับสนุนกำลังอาวุธที่ผิดกฎหมายส่งเสริมข้อขัดแย้งของโลก แต่การไม่ใช้ความรุนแรงให้เป็นสไตล์การเมือง สามารถ และต้องทำให้มากเพื่อหยุดยั้งสิ่งที่นำหายนะนี้
|