Leading US exorcists explain huge increase in demand for the Rite and priests to carry them out ในสหรัฐอเมริกา ใน 10 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนพระสงฆ์นักไล่ผีที่ได้รับแต่งตั้งเป็นทางการจาก 12 ถึง 50 องค์2 องค์ที่กระตือรือร้นมาก คือ คุณพ่อแกรี่ โทมัส (Fr. Gary Thomas) ผู้รับการอบรมที่กรุงโรม และคุณพ่อวินเซนต์แลมเพิร์ท (Fr. Vincent Lampert)คุณพ่อทั้งสองให้สัมภาษณ์ในหนังสือ he Telegraph ว่ายาเสพติดและหนังสือลามกมีจำนวน มากขึ้น ระบบดูแลสุขภาพทางจิตล้มเหลว และมีกิจกรรมของคนไม่เชื่อพระเจ้าเป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น ผีถ้วยแก้ว (Ouija Board) เรียกผู้ตาย ทำให้จำเป็นต้องมีพิธีไล่ผีพิธีไล่ผ ีของคาทอลิก เป็นศาสนบริการแห่งการเยียวยารักษา พระสังฆราชตัดสินใจแต่งตั้งผู้ไล่ผีเป็นทางการในสังฆมณฑล ในอดีต ต้องเก็บชื่อผู้ไล่ผีเป็นความลับ เพื่อป้องกันพระสงฆ์มิให้มีผู้ขอไม่จริงจัง แต่ปัจจุบันค้นหาข้อมูลได้ทางอินเตอร์เน็ทดีขึ้น เป็นเวลาหลายปีหลังจากสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 (ค.ศ. 1962-1965) แนวปฏิบัติของพระศาสนจักรสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน แต่พระสงฆ์ก็ไม่ค่อยกล่าวถึงปีศาจ แม้มันมีจริง จน ค.ศ. 2004 นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ตระหนักถึงอันตรายเรื่องนี้ ที่ New Age (ยุคใหม่) และ พิธีลึกลับ (occult) เข้าควบคุมในทวีปยุโรป เปิดทางให้เกิดความสนใจและผีเข้าครอบงำ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขของพระศาสนจักรปัจจุบันได้เตือนชาวคาทอลิกว่า ปีศาจมีอยู่จริง มันอยู่ท่ามกลางเรา หลายคนเชื่อว่าการขับไล่ผีปีศาจ ช่วยรักษาผู้ทนทุกข์ได้นักไล่ผีชาวอเมริกัน คุณพ่อวินเซนต์ แลมเพิร์ท อัครสังฆมณฑลอินเดียนาโปลิส กล่าวว่า เรามีความรู้ทุกชนิด แต่ในตัวเราว่างเปล่า มีนิสัยติดยาเสพติดแล ะภาพลามก... ยิ่งมีความรู้สูง คนยิ่งสิ้นหวัง ความเชื่อ (ในพระเจ้า) ลดลง หันไปสนใจความชั่วมากขึ้นคุณพ่อแกรี่ โทมัส เป็นนักไล่ผีประจำสังฆมณฑลซานโฮเซ่ ในภาคเหนือของแคลิฟอร์เนีย รับการอบรมที่กรุงโรม ใน ค.ศ. 2005 หลังจา กรับศีลบวช 22 ปี คุณพ่อมีทีมไตร่ตรองกรณี ประกอบด้วย นายแพทย์ นักจิตวิทยา และจิตแพทย์ ทุกคนเป็นคาทอลิกและต้องเชื่อว่าปีศาจมีจริง มีทีมอธิษฐานอยู่ด้วยกับคุณพ่อทุกครั้งที่มีการขับไล่ผี นักไล่ผีไม่ใช่มายากล แต่เป็นผู้อภิบาล จุดมุ่งหมายต้องการช่วยผู้ทนทุกข์ให้กลับมามีชีวิตปกติ และมีสัมพันธภาพที่ดีกับพระเจ้า
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปลสรุป16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016โดย Rachel Ray, วอชิงตัน, 26 กันยายน ค.ศ. 2016, www.telegraph.co.uk