"ปัจจุบันไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนกับครอบครัว เพื่อน พี่น้อง หรือว่ามองไปที่คนรอบข้างมักจะเห็นแต่ละคนต่างนั่งก้มหน้าอยู่กับหน้าจออุปกรณ์สื่อสารของตัวเองกันแทบทั้งสิ้น จึงทำให้เกิดศัพท์บัญญัติใหม่ในโลกออนไลน์ชื่อ “สังคมก้มหน้า” (Indifferent Society) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีผลกระทบอยู่ไม่น้อย หากเรายังปล่อยปะละเลยให้สังคมเป็นเช่นนี้ต่อไป"

จากพฤติกรรมทางสังคมของผู้คนในยุค Social Network ที่ผู้คนต่างก้มหน้าอยู่กับอุปกรณ์ พกพาส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอแพด ไอโฟน แท็บเล็ต ต่างๆ ซึ่งเราจะพบเห็นอยู่ได้ทั่วไปว่าผู้คนเหล่านี้ต่างง่วนอยู่กับการ แชทผ่านไลน์กับเพื่อนหรือกลุ่มเพื่อน ทำให้ไม่ได้สนใจพูดคุยกับคนใกล้ตัว

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดี กรมสุขภาพจิต ได้ให้ความรู้ว่าพฤติกรรมสังคมก้มหน้า มีทั้งผลดีและผลเสีย กล่าวคือ

"เรื่องการใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้ แม้สิ่งที่เราทำจะเป็นประโยชน์ ถ้าก้มหน้าได้อย่างเดียวแต่เงยหน้าขึ้นมาไม่ได้เลย ในแง่การใช้เวลากับมันมากเกินไปจนเริ่มรบกวนสิ่งที่เรียกว่า การทำหน้าที่ปกติ เช่น ถึงเวลาต้องรับประท านอาหาร แต่รู้สึกว่าไม่กินก็ได้ หรือถึงเวลาต้องนอนก็ไม่นอน ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ได้ อีกอย่างต้องยอมรับว่าการสื่อสารผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ทดแทนการพูดคุยแบบเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่แปลว่าเรามีเพื่อนมากมายอยู่ใน Facebook หรือใน Line แต่ในความเป็นจริงหากเราไปไหนแล้วไม่มีคนคุยด้วยหรือคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ไม่มีเพื่อนในสังคมจริง ไม่ได้แปลว่าคุณมีเพื่อน เพราะว่าทักษะทางสังคมที่เรียกว่า “Face to face” การมองหน้าหรือส บตากัน การมีจังหวะในการพูดคุย บางคนเสียไปเลย เช่น เวลาจะพูดกับคนอื่นรู้สึกประหม่า หรือว่าไม่เข้าหาคนอื่น หรือวางตัวไม่ถูก หรือว่าภาษาเป็นปัญหา เพราะภาษาที่ใช้ในโซเชียลเ น็ตเวิร์กไม่ค่อยปกติ ยิ่งถึงเวลาเป็นเรื่องของทางการมักเริ่มมีปัญหาว่าจะพูดภาษาที่เป็นทางการอย่างไร"

Evan Williams ผู้ก่อตั้ง Blogger และ Twitter เผยข้อแนะนำสำหรับการให้เด็กใช้อุปกรณ์ ดังนี้
เด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปีมีแนวโน้มที่จะเสพติดอุปกรณ์ไอทีมาก
ผู้ปกครองควรขีดเส้น และตั้งกฎจำกัดการใช้งาน
ไม่ควรให้เด็กใช้อุปกรณ์ในช่วงวันปกติหลังเลิกเรียน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ควรให้เด็กใช้ iPhone, iPad ได้ไม่เกิน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงต่อวัน
เด็กอายุ 10 – 14 ปีให้ใช้คอมพิวเตอร์ได้ในวันปกติ แต่เฉพาะทำการบ้านเท่านั้น
แต่ก็มีพ่อแม่อีกหลายคนที่ใช้กฎที่ยืดหยุ่นกว่า เช่นห้ามเปิดจออุปกรณ์ทุกชนิดในห้องนอน แต่ใช้ได้ไม่จำกัดในห้องนั่งเล่น ที่พ่อแม่เห็นลูกอยู่ตลอด หรือจำกัดแค่บางแอพและห้ามใช้ Social Network เท่านั้น

การไม่สนใจกันบ้างเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิดในสังคม มาจากทัศนคติเฉยๆ เมื่อเห็นคนอื่นกำลังเดือดร้อนหรือมีความทุกข์ ไม่เคารพ (ส ิทธิ) คนอื่น ไม่เห็นว่าคนอื่นกำลังอยู่ด้วย  ไม่สนใจความรู้สึกของคนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คนเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว  สนใจแต่ตัวเอง เราจะแก้ไขสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร เราควรมองรอบๆ ตัว  ใส่ใจ ให้ความรักเมตตาช่วยเหลือที่บุคคลรอบข้างที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ   และเคารพสิทธิของคนอื่น

ข้อมูลจาก    https://www.gotoknow.org/posts/548278
               “ภัยใกล้ตัวกับโรค สังคมก้มหน้า” http://virginstarfm.becteroradio.com
               http://www.antiessays.com/free-essays/Indifference-Is-The-Cause-Of-Many-278493.html
               และ “ทำไม Steve Jobs ถึงไม่ให้ลูกเล่น iPad, iPhone?” จาก facebook
 

Home