สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงออกสมณสาส์น ฉบับที่ 2 ชื่อ ความชื่นชมแห่งพระวรสาร
(Evangelii Gaudium) เกี่ยวกับการประกาศพระวรสารในโลกสมัยนี้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โอกาสสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล และปิดปีแห่งความเชื่อ ในย่อหน้าแรกพระองค์ตรัสดังนี้
ความชื่นชมแห่งพระวรสารเติมหัวใจและชีวิตของทุกคนผู้พบปะกับพระเยซูเจ้า ทุกคนที่ยอมรับความรอดที่พระองค์ทรงเสนอให้จะเป็นอิสระจากบาป
ความเศร้าโศก ความว่างเปล่าภายใน และความโดดเดี่ยว พร้อมกับพระคริสตเจ้าความยินดีเกิดใหม่อย่างสม่ำเสมอ พ่อขอให้กำลังใจคริสตชนให้ก้าวสู่บทเรียนใหม่แห่งการประกาศข่าวดี ด้วยความชื่นชมและชี้หนทางใหม่ ในการก้าวเดินของพระศาสนจักรในปีที่กำลังมาถึง (1)
โลกปัจจุบันเผชิญอันตรายจากลัทธิบริโภคนิยม (Consumerism)
ทำให้ยึดความพอใจเป็นใหญ่ และทำให้มโนธรรมเบี่ยงเบน ชีวิตสนใจแต่ผลกำไร ก็ไม่มีที่ว่างให้คนอื่น ไม่มีที่สำหรับคนยากจน ไม่ได้ยินเสียงของพระเจ้า ไม่สัมผัสความชื่นชมยินดีเงียบๆในความรักของพระเจ้า ไม่คิดจะทำความดีต่อไป ไม่มีทางที่จะเจริญชีวิตที่มีศักดิ์ศรี และบรรลุชีวิตที่สมบูรณ์ นี่ไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้า ถ้าเราปรารถนานำชีวิตให้มีศักดิ์ศรีและบรรลุชีวิตที่สมบูรณ์ เราต้องออกไปหาคนอื่นและแสวงหาความดีของเขา เพราะความรักของพระเจ้าผลักดันเรา 2 คร 5: 14 หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ (1 คร 9: 16)
สมเด็จพระสันตะปาปาเสนอแนวทางแก่เราในการประกาศพระวรสารก้าวใหม่ ด้วยความกระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา โดยมีหลักคำสอนจากสภาสังคายนาวาติกัน ที่ 2 พระธรรมนูญ เรื่อง พระศาสนจักร
(Lumen Gentium) มีหัวข้อดังต่อไปนี้
1.การฟื้นฟูพระศาสนจักรให้ออกไปทำงานธรรมทูต 2.การผจญที่ผู้อภิบาลและผู้ร่วมงานเผชิญปัญหา 3.พระศาสนจักรในฐานะประชากรของพระเจ้าซึ่งประกาศข่าวดี 4.การเทศน์และการเตรียมเทศน์
5.สนใจคนยากไร้ในสังคม 6.สันติภาพและการเสวนาภายในสังคม 7.แรงจูงใจด้านชีวิตจิตสำหรับพันธกิจ
สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่าทรงต้องการเสนอการประยุกต์ปฏิบัติที่สำคัญๆ สำหรับพันธกิจของพระศาสนจักรปัจจุบัน
ช่วยเราให้ร่วมงานประกาศข่าวดีได้ในทุกกิจการ ดังพระวาจาที่ว่า จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาเถิด ข้าพเจ้าขอย้ำอีกว่า จงชื่นชมเถิด (ฟป 4: 4)
การปฏิรูปงานธรรมทูตของพระศาสนจักร
เราต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระเยซูเจ้า ที่ว่า จงไปสั่งสอนนานาชาติ ให้เป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขา
เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต (มธ 28: 19 ) อับราฮัม โมเสส เยเรมีย์ ได้เดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอน และพระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้ออกไปทำงานธรรมทูต
คริสตชนทุกคน ทุกหมู่คณะต้องสนใจคำสั่งของพระอาจารย์ให้ออกจากพื้นที่สะดวกสบาย (Comfort Zone) เพื่อไปหาทุกคนที่อยู่ชายขอบ (Peripheries) และต้องการแสงสว่างของพระวรสาร (20)
หมายเหตุสมณสาส์นฉบับแรก ชื่อ แสงสว่างแห่งความเชื่อ
(Lumen Fidei) ออกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2013 สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย จัดพิมพ์ภาษาไทยแล้ว (สิงหาคม 2013)
|