ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 องค์การสหประชาชาติได้เริ่มดำเนินการเรื่องการท่องเที่ยวสากล
ได้เริ่มฉลองวันการท่องเที่ยวสากล วันที่ 27 กันยายน จุดประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงบทบาทของการท่องเที่ยวแก่ประชาคมโลก และมีผลกระทบต่อคุณค่าด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมทั่วโลก
วันที่ 27 กันยายน เราจะฉลองวันการท่องเที่ยวสากล องค์การการท่องเที่ยวโลกเสนอคำขวัญประจำปีนี้ว่า การท่องเที่ยวและการป้องกันน้ำ อนาคตของเราทุกคน
(Tourism and water : protecting our common future) ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศทศวรรษปฏิบัติการนานาชาติ น้ำ แหล่งกำเนิดชีวิต (ค.ศ. 2005 2015) เพื่อเน้นว่า เราจำเป็นต้องพัฒนาน้ำอย่างยั่งยืน เป็นพิเศษเพื่อความมั่นคงของสภาพแวดล้อมและการกำจัดความยากจนหิวโหย น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพและความผาสุขของมนุษย์ และเป็นพื้นฐานที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษใหม่
สันตะสำนัก
(พระศาสนจักรคาทอลิก) ต้องการถือโอกาสนี้ ออกสารให้เราร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวสมัยปัจจุบัน เป็นโอกาสให้เราร่วมพันธกิจการประกาศข่าวดี การท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบด้านเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วกว้างขวางที่สุดในโลก เราไม่ลืมว่า 10 ปีนี้ มีคนท่องเที่ยวมากกว่าพันล้านคน แม้ภายในประเทศเองก็มีอัตราสูงขึ้น
โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวแสวงหาความสนุกสนานในระหว่างวันหยุด
ไปท่องเที่ยวแหล่งน้ำ เช่น ทะเล ทะเลสาบ ชายหาด น้ำตก เกาะ ฯลฯ นอกนี้ยังเกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท สปา ภัตตาคาร และกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ
เมื่อมองอนาคต การท่องเที่ยวจะมีประโยชน์จริงๆ หากเราสามารถจัดการให้เป็น เศรษฐกิจสีเขียว
คือรักษาสภาพแวดล้อม สร้างงานใหม่ ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น และขจัดความยากจนให้ลดน้อยลง
ไม่สงสัยเลยว่าการท่องเที่ยวปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม
เป็นทั้งสิ่งดีและมีผลเสียด้วย ตัวอย่างเพื่อให้ได้ผลกำไรด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะยอมทำลายสภาพแวดล้อมของสถานที่ท่องเที่ยว ต่อไปก็จะไม่สามารถให้ท่องเที่ยวต่อไปได้
เราทราบดีว่า
น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิต เป็นกุญแจต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ปราศจากน้ำก็ปราศจากชีวิต ตามสถิติของสหประชาชาติบอกว่า คนหนึ่งพันล้านคนขาดน้ำดื่ม เพราะความยากจน เพราะน้ำเสีย เพราะการใช้น้ำอย่างไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรม รวมทั้งผลการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวด้วยการใช้น้ำ บางครั้งใช้น้ำมากเกินจำเป็น ขณะที่ประชาชนรอบข้างขาดแคลนน้ำ
เราต้องอุทิศตนเพื่อปกปักรักษาสิ่งสร้าง
ซึ่งเป็นพระพรของพระเจ้าที่ประทานให้ครอบครัวมนุษย์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้กล่าวในพิธีมิสซา (19 มีนาคม 2013) รับหน้าที่ประมุขของพระศาสนจักรว่า เราต้องดูแลสิ่งสร้าง ตามแผนการของพระเจ้าที่จารึกในธรรมชาติ เป็นผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อม อย่ายอมให้มีเครื่องหมายแห่งการทำลายและความตายเคียงข้างการเดินทางของเราในโลกนี้... พระเจ้าทรงมอบทุกสิ่งให้มนุษย์ดูแลรักษา เป็นความรับผิดชอบของทุกคน
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
พระองค์เป็นผู้ดับความกระหาย (เทียบ ยน 7: 38) และตรัสกับหญิงชาวสะมาเรียว่า ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้นั้น จะไม่กระหายอีก (ยน 4: 14)
ด้วยเหตุนี้นักการเมืองและบรรดาผู้มีส่วนร่วมในการท่องเที่ยว
มีความรับผิดชอบสำคัญในการจัดการน้ำ เราต้องทำงานเพื่อจำกัดการทำลายซึ่งได้เริ่มแล้ว ด้วยนโยบายที่เหมาะสม และแสวงหาวิธีทางที่มีประสิทธิภาพปกป้องอนาคตของเราร่วมกัน เราต้องปรับทัศนคติในการดำเนินชีวิต มีสติและมีวินัยของตนเอง เราต้องช่วยให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงความรับผิดชอบนี้ ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ อย่าใช้น้ำเปลือง หรือทำให้น้ำเป็นพิษ เราต้องเคารพสิ่งสร้าง ช่วยกันรับผิดชอบ ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
|