พระเป็นเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอดพ้นและเข้าถึงความจริงสมบูรณ์ คือ
พระเยซูคริสตเจ้า จึงจำเป็นต้องมีการประกาศถึงพระคริสตเจ้าไปยังประชากรทุกชาติ ทุกภาษา จนสุดปลายแผ่นดิน
เพื่อให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้าได้รับการรักษาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
และทรงชีวิตอยู่เสมอในพระศาสนจักร บรรดาอัครสาวกจึงเลือกทายาทให้สืบตำแหน่งต่อไปคือ พระสังฆราช ดังพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า
ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา (มธ 28:19)
พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งพวกท่านไปฉันนั้น (ยน 20:21) ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย (ยน 20:23)
ภาระหน้าที่ของอัครสาวกคือ การเป็นประจักษ์พยานที่ได้รับเลือกสรรถึงการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า การวางรากฐานของพระศาสนจักรและเอาใจใส่สถาปนาทายาทให้สืบสานงานของพระคริสต์ต่อไป
บรรดาอัครสาวกจึงมอบหมายให้ผู้ร่วมงานใกล้ชิดอยู่กับพวกเขา ปฏิบัติภาระหน้าที่ของพวกเขาให้สำเร็จ
และเสริมสร้างกิจการที่พวกเขาได้เริ่มต้นไว้ให้มั่นคง ให้ดูแลสมาชิกของพระศาสนจักร หล่อเลี้ยงพระศาสนจักรให้คงอยู่ หลังจากที่พวกเขาได้ถึงแก่กรรมแล้ว (เทียบ กจ 20:28, พระศาสนจักร ข้อ 20)
ภาระหน้าที่ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงมอบหมายด้วยพระองค์เองแก่เปโตรอัครสาวกคนแรก ถูกกำหนดมาให้ถ่ายทอดแก่ทายาทสืบต่อไป และประกอบกันขึ้นเป็นภารกิจที่ยืนยงถาวรฉันใด
ภาระหน้าที่ซึ่งมอบไว้แก่อัครสาวกทั้งหลายให้เป็นผู้นำของพระศาสนจักร เป็นภาระซึ่งการอภิเษกของพระสังฆราชจักต้องเป็นหลักประกันความยั่งยืนตลอดกาลฉันนั้น พระศาสนจักรจึงสอนว่า ผู้ใดเชื่อฟังบรรดาพระสังฆราชก็เท่ากับเชื่อฟังพระคริสต์ ผู้ใดสลัดทิ้งพวกเขาก็สลัดทิ้งพระคริสต์ และองค์พระผู้ทรงส่งพระคริสต์ลงมาด้วย (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก 77)
ชื่ออื่นของสมเด็จพระสันตะปาปา โป๊ป
(Pope มาจากภาษากรีก แปลว่า บิดา) ภาษาไทยใช้เรียก สันตะปาปา แปลว่า บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอมหาราช (ค.ศ. 440-461) เป็นองค์แรกที่ใช้เป็นทางการ
พระสังฆราชแห่งโรม
ก่อนจะได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา ต้องได้รับศีลบวชเป็นพระสังฆราชก่อน สภาสังคายนาวาติกันที่ 1 (ค.ศ. 1869-1870) ได้นิยามว่าผู้สืบตำแหน่งเปโตรมีศักดิ์เป็นพระสังฆราชแห่งโรม ผู้สร้างสะพานของพระศาสนจักรสากล (Supreme Pontiff)
Pontiff มาจากคำภาษาละติน 2 คำ ที่แปลว่า ผู้สร้างสะพาน ต่อมาเป็น Pontifex maximus หมายถึง ผู้สร้างสะพานระหว่างพระเจ้าและสิ่งต่างๆ (Mortals)
ผู้รับใช้แห่งผู้รับใช้ทั้งหลายของพระเป็นเจ้า
(Servus servorum Dei) สมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรี่มหาราช (ค.ศ. 590-604) เป็นผู้ใช้ครั้งแรกโดยนำมาจากคำตรัสของพระเยซูเจ้าว่า ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน (มก 10:44) และใช้กันทั่วไปหลังสมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรี่ ที่ 7 (ค.ศ. 1073-1085)
ในขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16
ทางลาออก และมีผลวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 เวลา 20.00 น. ตำแหน่งสูงสุดของพระศาสนจักรว่างลง เราควรอธิษฐานภาวนาแด่สมเด็จพระสันตะปาปา และภาวนาเพื่อการเลือกตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะได้บรรลุผลสำเร็จด้วยดี
|