พระสงฆ์ยกแผ่นปัง และถ้วยเหล้าองุ่นในพิธีมิสซา เพื่อให้ประชาชนเห็น  และนมัสการพระเยซูเจ้าผู้ประทับในศีลมหาสนิท

เมื่อไปร่วมพิธีมิสซาของชาวคาทอลิก  เป็นประเพณีที่พระสงฆ์ยกศีลมหาสนิท   หลังจากภาวนาบทเสก (บทขอบพระคุณ) ตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 13

ในอดีต   พระสงฆ์หันหน้าเข้าหาพระแท่น ในทิศทางเหมือนบรรดาสัตบุรุษ  หมายความว่าเวลาพระสงฆ์ภาวนาบทขอบพระคุณ  ประชาชนจึงไม่สามารถเห็นแผ่นปัง  และถ้วยกาลิส

ในสมัยแรกเริ่ม ไม่มีปัญหาอะไรสำหรับประชาชน  แต่ในศตวรรษที่ 13 บรรดานักบุญหลายองค์หาวิธีแสดงความเชื่อต่อศีลมหาสนิท  แก่ประชาชน

ตัวอย่างเช่น นักบุญยูเลียอานา แห่งLiege (ในเบลเยี่ยม) พยายามเสนอในวันสมโภชพระกายพระคริสตเจ้า (Corpus Christi). เป็นการฉลองสากล  ในศตวรรษ ที่ 13
 
ตาม New Catholic Encyclopedia ท่าน ODO แห่งปารีส (ฝรั่งเศส) หรือผู้สืบตำแหน่งต่อมา  ในศตวรรษที่ 13  ได้ออกกฤษฎีกาว่า "ให้พระสงฆ์ปกปิดแผ่นศีล  จงถึงเวลาเสกศีลฯแล้ว  ให้ยกขึ้นเพื่อสัตบุรุษนมัสการ"

กฤษฎีกานี้เป็นการตอบบรรดาฆราวาส  ผู้ต้องการเห็นและนมัสการพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท

หลังสภาวาติกัน ที่ 2 (ค.ศ.1965) เมื่อบรรดาพระสงฆ์ได้รับอนุญาตให้ทำพิธีมิสซาโดยหันหน้าหาประชาชน ข้อแนะนำเรื่องนี้  ยังอยู่ในหนังสือบทประจำมิสซา ยืนยันธรรมล้ำลึกนี้ว่า "เวลาภาวนาเสก  พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในแผนปังและเหล้าองุ่นที่ถูกถวายบนพระแท่น"         (จาก
Aleteia 14/6/2022)

เกี่ยวกับการยกศีลมหาสนิท มีข้อแนะนำดังนี้
- ครั้งแรก ยกเฉพาะจานรองศีลเท่านั้น ไม่ต้องยกแผ่นปังศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้
- ยกถ้วยกาลิสถ้วยเดียว และจานรองศีลเดียวเท่านั้น  แม้มีหลายถ้วย ประธานพิธียกคนเดียว ถ้วยเหล้าองุ่น และจานรองศีลอื่นๆวางบนพระแท่นเสมอ
-  ครั้งที่สอง ยกทั้งถ้วยหล้าองุ่นและจานรอง  จนประชาชนสรุป "อาเมน"  ของบทภาวนานั้น  ไม่ว่าเป็นการขับร้อง หรือกล่าวซ้ำ

ในการยกครั้งที่สาม หลังบท”ลูกแกะพระเจ้า” (คือก่อนรับศีลมหาสนิท) ให้พระสงฆ์ยกศีลมหาสนิทกล่าวว่า  "นี่คือลูกแกะพระเจ้า" จนประชาชนสวด "พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควร..."จนจบ (สรุปจาก
Zenit.org 30/4/2012)

                                                                                                                                         ฟ.วีระ  อาภรณ์รัตน์ แปล