( Aleteia ,3 กุมภาพันธ์ 2024)

พระศาสนจักรต้อนรับความคิดสร้างสรรค์ในงานอธิบาล แต่ห้ามแตะเรื่องสาระ (Matter) และรูปแบบ (form) ของศีลศักดิ์สิทธิ์

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  ได้รับรองเอกสารทางการ ชื่อ Gestis verbisque อาศัยท่าทางและคำพูด (By gestures and words) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024   สมณกระทรวงเรื่องข้อความเชื่อเตือนบรรดาบาทหลวงไม่ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมด้วยความริเริ่มส่วนตัว เพราะอาจทำให้ศีลศักดิ์สิทธิ์นั้นโมฆะ(invalid)

โรมยืนยันว่าความริเริ่มแก้ไขการใช้คำ หรือรูปแบบของพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  เป็นการทำผิดกฎหนักและสมควรถูกลงโทษเป็นแบบอย่าง

พระคาร์ดินัล วิคตอร์  มานูเอล เฟอร์นันเดซ  สมณมณตรีของสมณกระทรวงเรื่องข้อความเชื่อ   อธิบายว่าสมาชิกของสมณกระทรวงได้รับรองเอกสารนี้เป็นเอกฉันท์  ในการประชุม เมื่อวันที่ 25 มกราคม

เอกสารนี้เป็นการตอบสถานการณ์ที่บางคนชอบเพิ่มเติมพิธีกรรมสำคัญ    จะทำศีลศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นผลและโมฆะ (null and void) จำเป็นต้องทำพิธีใหม่

พระคาร์ดินัลอ้างถึงพิธีศีลล้างบาป  บาทหลวงบางคนเพิ่มบทสูตรเอง  เช่น  "ข้าพเจ้าขอล้างท่านในนามของพระผู้สร้าง..." หรือ "ในนามของพ่อ (daddy) และแม่ (mommy) ... .เราขอล้างท่าน"

วันที่ 6 สิงหาคม 2020 สมณกระทรวงเดียวกันนี้  ในสมัยของพระคาร์ดินัล หลุยส์ ลาดารีอาเฟอร์เร  ได้พิมพ์ข้อสังเกตเรื่องการโปรดศีลล้างบาปที่โมฆะ เพราะใช้บทสูตรอื่นๆ

พระคาร์ดินัล เฟอร์นันเดซ กล่าวว่า บาทหลวงหลายคน "เจ็บปวดที่รู้ว่าการบวชเป็นบาทหลวงของพวกเขา  โมฆะ  และศีลศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาทำพิธี ก็โมฆะ

นี่เป็นการเตือนบรรดาผู้อภิบาล “ที่ถูกผจญ ให้รู้สึกว่าพวกเขาเป็นเจ้าของพระศาสนจักร” หรือต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพิธี

พระคาร์ดินัลยืนยันว่า “ การแก้ไขรูปแบบของศีลศักดิ์สิทธิ์ หรือ  เนื้อหาสาระของศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นความผิดกฎขั้นหนัก  และสมควรถูกทำโทษเป็นตัวอย่าง”

อำนาจของพระศาสนจักร

เอกสารนี้ยืนยันว่า การปรับปรุงพิธีกรรม  เป็นอำนาจหน้าที่ของพระศาสนจักร  มิใช่ขึ้นกับความริเริ่มส่วนบุคคล ในหนังสือพิธีกรรมจะมี  ตัวอักษรสีแดง กำหนดไว้แล้ว ห้ามแก้ไขเพิ่มเติม

 ส่วนการประยุกต์เข้าในวัฒนธรรม ก็ต้องเคารพระเบียบ บาทหลวงต้องปฏิบัติตามองค์ประกอบสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความซื่อสัตย์ต่อจารีตพิธีที่ถูกกำหนดไว้  เพื่อความถูกต้อง และเอกภาพของพระศาสนจักร

                                                                                                                                         ฟ.วีระ  อาภรณ์รัตน์ แปล