ช่วงการระบาดของไวรัสโคโรน่า  ทำให้ผมหยิบหนังสือรายงานการประชุม คำสอนของเอเชีย ( ตุลาคม  ค.ศ. 1995 ) ผู้ร่วมประชุม 49 คน จาก  11 ประเทศเมื่อ  25 ปีมาแล้ว หน้า 142 -173

อินโดนีเซีย มีพลเมือง 251 เมื่อ  25  ล้านคน  มีคาทอลิกร้อยละ 2.9 คือประมาณ  6.9 ล้านคน แบ่งเป็น 38  สังฆมณฑล (ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศที่ไปร่วมงานชุมนุมเยาวชนเอเชีย 1- 6 สิงหาคม ค.ศ. 2017)  ที่ ยอร์คยาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย )

ในรายงานกล่าวถึงการประชุมคำสอน
1.ครั้งแรก วันที่ 10 -16 กรกฎาคม  ค.ศ. 1977
2.ครั้งที่ 2  วันที่ 29 มิถุนายน  ถึง 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1980
3.ครั้งที่ 3 (กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1984)   กล่าวถึงการอบรมผู้นำคำสอนชุมชน  เริ่มกล่าวถึงการสอนคำสอนชุมชน (Community Catechesis)
4.ครั้งที่ 4  การอบรมความเชื่อคริสตชนในด้านการมีส่วนด้านสังคม (ตุลาคม ค.ศ. 1988)
5.ครั้งที่   5 เพื่อพัฒนาความเชื่อคริสตชนในการมีส่วนด้านสังคม (22-23  กันยายน ค.ศ. 1992)
 
ข้อไตร่ตรองของผู้รายงานเมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1995 เขียนว่า แม้มีการประชุมต่อเนื่อง (ทุก 3-4 ปี ) แต่ก็ยังคงมีปัญหาให้แก้ไข  และพัฒนาสังคมต่อไป
- คำสอนชุมชน ต้องเป็นประสบการณ์ชีวิต  และพันธกิจของชุมชนคริสตชน จึงต้องการผู้นำชุมชนที่เข้าใจชัดเจน
- คำสอนชุมชน มิใช่ การอบรมความเชื่อแบบเดียวเท่านั้น ยังมีการแบ่งปันพระวรสาร  และการสอนนอกระบบ
การอบรมครูคำสอนสอน และ หัวหน้าคริสตชน ทั้งด้านข้อความเชื่อ พระคัมภีร์ และการอภิบาล
การเสวนา กับผู้มีความเชื่อต่างกัน  เพราะเราเป็นคนกลุ่มน้อยในชุมชน

คุณพ่อโรเบิร์ต ฮาร์ดวิริยานะ SJ เห็นด้วยว่า  คำสอนชุมชนต้องสนใจวัฒธรรม และเป็นวิธีที่เหมาะสมในการพัฒนา  ชุมชนคริสตชนกลุ่มย่อย  (SCC) หล่อเลี้ยงด้วยพระวาจาพระเจ้า ศีลศักดิ์สิทธิ์  ผู้นำต้องรับใช้ (บริการ) จึงเป็น  ศิษย์พระคริสต์  ที่สมบูรณ์ขึ้น  และสนใจคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักรในชีวิตประจำ

แม้เวลาจะผ่านไป  25 ปี แต่ “การสอนคำสอนเพื่อสร้างชุมชน” ยังเป็นหนึ่งในวิธีการสอนคำสอนสำหรับคนไทยในปัจจุบัน   ดังที่มีกล่าวถึงใน  “คู่มือแนะแนวการสอนคำสอนในประเทศไทย” (ค.ศ. 2014) ว่า”  ลักษณะเฉพาะของงานคำสอนก็คือ ชุมชนแห่งความเชื่อ เราจะต้องก้าวให้ไกลไปกว่าการสอนคำสอนในระบบโรงเรียน โดยพัฒนาไปสู่การสอนคำสอนแบบ “ชุมชนแห่งความเชื่อที่อยู่ในวิถีชีวิตแบบไทย” (หน้า 81)

                                                                                                                                 ฟ.วีระ  อาภรณ์รัตน์   15/4/2020