ในการแก้ไขข้อขัดแย้งในชีวิตประจำวัน ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องหนัก ทำลา
ยความสัมพันธ์ของคุณกับคนอื่น ถ้าเรื่องนั้นทำร้ายคนมากมาย ถ้าเรื่องนั้นทำร้ายผู้กระทำผิดเอง ถ้าเรื่องนั้นลบหลู่พระเจ้าชัดเจน คุณควรไปพูดกับเขาตัวต่อตัว (ตามลำพัง)
เราส่วนมากไม่ค่อยอยากไปบอกความผิดของคนนั้น หน้าต่อหน้า ต้องรวบรวมความกล้ามากๆไปหาคนอื่น ช่วยเขาจากข้อขัดแย้ง ในพระคัมภีร์มิได้สอนเราให้ไปเท่านั้น แต่ยังบอก วิธีการด้วย คือ ถ้าท่านพบว่าใ
ครคนหนึ่งทำผิด ท่านซึ่งมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ จงตักเตือนแก้ไขเขาด้วยความอ่อนโยน (กท 6:1)
แบบหน้าต่อหน้า (ตามลำพัง) เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการตักเตือนกันฉันพี่
น้อง ในพระวรสารนักบุญมัทธิว 18:15 - 18 พระเยซูเจ้าทรงให้กระบวนการติดต่อกับผู้ทำผิด เริ่มด้วยการไปหาเขาตามลำพัง ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงไปตักเตือนเขาตามลำพัง (มธ 18:15) ก่อนเทคโนโลยีส
มัยใหม่ทุกชนิด พระเยซูเจ้าตระหนักดีกว่าไม่มีอะไรมาแทนการพูดกับปรปักษ์ตามลำพัง มันง่ายกว่าส่งข้อความ อีเมล โน้ต หรือโทรศัพท์ การสนทนาตามลำพังยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ข้อขัดแย้ง เพราะเหตุว่า
ทั้งสองสามารถเห็นการแสดงออกบนใบหน้า อ่านภาษาท่าทาง และฟังคำพูด คุณจะได้รับข้อความสมบูรณ์ และมีโอกาสชี้แจงความเข้าใจผิดกันด้วย
การเห็นหน้าเห็นตา เป็นวิธีที่ดีที่สุด เวลาไปหาผู้อื่น การฟังที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อคุณไป ไม่ควรสรุปว่าคุณรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าชี้ความผิดของใครโดยไม่ให้โอกาสเขาอธิบาย การให้เวลาและสถานที่
ฟังเขา แสดงออกว่าคุณตระหนักดีว่าคุณไม่มีคำตอบทุกข้อ และแสดงให้คนอื่นเข้าใจว่าคุณเห็นคุณค่าความคิด และความเห็นของเขา แม้คุณไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่คุณได้ยิน การเต็มใจฟัง..แสดงออกถึงความเคาร
พและการพยายามเข้าใจความคิดของเขา การฟังมิใช่มาง่ายๆ นักบุญยากอบเตือนว่าพี่น้องที่รัก จงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ (ยก 1:19 )
ก่อนไป คุณควรวางแผนอย่างดีว่าต้องการพูดอะไร จะเริ่มสนทนาอย่างไร พูดหัวข้ออะไร เมื่อคุณพูดถึงความผิดของเขา การเตรียมพูดหั
วข้ออะไร มีจุดมุ่งหมายอะไร เมื่อคุณต้องพูดถึงความผิดของเขา การเตรียมพูดอย่างเอาใจใส่ สามารถทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างสันติ และศัตรู
การแก้ไขผู้อื่นไม่ใช่แค่เผชิญหน้าเขาด้วยความผิดของเขา หลายคนไม่กล้าพูดเกี่ยวกับความผิดของผู้อื่น การระวังอาจเป็นเครื่องหมายของ
การสร้างสันติปลอมๆ แกล้งทำเป็นว่า ทุกอย่างราบรื่นซึ่งไม่จริง เมื่อเราตัดสินที่จะไป มันมีทั้งเสมอตัวและอันตราย ถ้าพูดถึงปัญหาเร็วเกินไป ก็อาจทำลายมิตรภาพได้
ถ้าเราต้องการเป็นผู้สร้างสันติที่มีประสิทธิผล เราจำเป็นต้องอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้ไตร่ตรอง และยื่นหยุ่น เพื่อเราสามารถพบว
ิธีที่ดีที่สุดต่อสถานการณ์นี้ พระคัมภีร์มิค่อยใช้คำที่เรามักแปลว่า เผชิญหน้า เพื่อบรรยาย กระบวนการสนทนากับผู้อื่นที่เกี่ยวกับความผ
ิดของเขา เรามักใช้คำว่าการสอน การสารภาพ การแก้ไขความผิด การให้เหตุผล การแสดง การให้กำลังใจ หรือ การเตือน พระเจ้าปร
ารถนาให้เราปรับความรุนแรงของการสื่อสารให้เหมาะสมกับฐานะของบุคคลอื่น และความรีบด่วนของสถานการณ์ อย่าปล่อยให้ความขัดแย้งกับผู้อื่นแย่ลงเป็นการโต้เถียง |