4. การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่

257.       สภาพของผู้ใหญ่ในปัจจุบันมีความซับซ้อนเป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต เราไม่เข้าใจขั้นตอนของชีวิตในช่วงนี้ได้อีกต่อไปว่าเป็นสถานะของความมั่นคงที่สมบูรณ์แล้ว  แต่เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องของการปรับโครงสร้างที่คำนึงถึงวิวัฒนาการของความรู้สึกส่วนบุคคล  การผสมผสานของความสัมพันธ์ ความรับผิดชอบที่บุคคลนั้นถูกเรียกร้อง  ด้วยพลังที่มีชีวิตชีวานี้ที่รวมเอาปัจจัยของครอบครัว วัฒนธรรม สังคม ผู้ใหญ่ปรับเปลี่ยนเอกลักษณ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองอย่างสร้างสรรค์ต่อช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เขาพบว่าตัวเองกำลังดำเนินชีวิตอยู่ พลังของการเป็นผู้ใหญ่ยังเกี่ยวข้องกับมิติทางศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากกิจการความเชื่อเป็นกระบวนการภายในที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับบุคลิกภาพ ในช่วงของวัยผู้ใหญ่ ความเชื่อนั้นถูกเรียกให้มีรูปร่างที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะพัฒนาและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อที่จะได้ตอบสนองต่อความท้าทายของชีวิตอย่างแท้จริงและอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นทุกครั้งที่เป็นไปได้ในการเดินทางของความเชื่อกับผู้ใหญ่ต้องการประสบการณ์ของชีวิต ไม่เพียงแต่นำมาพิจารณา แต่นำมาตีความใหม่โดยคำนึงถึงความเชื่อว่าเป็นโอกาส และรวมเข้ากับเส้นทางของการอบรมเอง

258.       ความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับคำถามเกี่ยวกับความเชื่อนั้นแตกต่างกันมาก และเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ทุกคนควรได้รับการต้อนรับและรับฟังตามเอกลักษณ์ของเขา  โดยไม่ลดทอนความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถานการณ์  เป็นไปได้ที่จะพิจารณาผู้ใหญ่สองสามประเภทที่ดำเนินชีวิตตามความเชื่อโดยมีแนวทางที่แตกต่างกัน

           -  ผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อ ที่ดำเนินชีวิตตามความเชื่อและต้องการรู้จักความเชื่อนี้ให้ดีขึ้น

           -  ผู้ใหญ่ที่แม้ว่าพวกเขาได้รับศีลล้างบาปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอบรมอย่างเพียงพอหรือยังไม่ได้ทำให้การเริ่มชีวิตคริสตชนสมบูรณ์ และสามารถเรียกได้ว่าเป็นเสมือนผู้กำลังเตรียมเป็นคริสตชน^[28]

           -  ผู้ใหญ่ที่รับศีลล้างบาปแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อเป็นประจำ แต่ได้พยายามติดต่อกับชุมชนของพระศาสนจักรในบางช่วงเวลาของชีวิต

           -  ผู้ใหญ่ที่มาจากความเชื่อคริสต์นิกายอื่นๆ หรือจากประสบการณ์ทางศาสนาอื่นๆ

           -  ผู้ใหญ่ที่กลับมาสู่ความเชื่อคาทอลิกหลังจากมีประสบการณ์ในกระบวนการทางศาสนาใหม่ๆ

           -  ผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้รับศีลล้างบาปซึ่งเป็นผู้สมัครเรียนคำสอนโดยเฉพาะหรือเรียกว่าคริสตชนสำรอง                                                                                                                                                                                                                       

259.       ความมุ่งมั่นในการเติบโตทางความเชื่อของศีลล้างบาปเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่ผู้ใหญ่ต้องมองว่ามีความสำคัญ เนื่องจากการมีส่วนร่วมในกระบวนการต่อเนื่องของการสร้างเอกลักษณ์ส่วนบุคคล ในวัยผู้ใหญ่ งานนี้ซึ่งเหมาะสมกับทุกคน จะเกิดขึ้นกับความรับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคมที่สามารถกระตุ้นให้เกิดวิกฤติซึ่งในเวลานั้นอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลึกซึ้งด้วยเหตุนี้ แม้ในช่วงนี้ของชีวิตและด้วยการเน้นลักษณะเฉพาะ การเป็นเพื่อนร่วมทางและการเติบโตในความเชื่อจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อผู้ใหญ่จะได้เติบโตในปรีชาญาณฝ่ายจิตซึ่งส่องสว่างและนำความเป็นเอกภาพมาสู่ประสบการณ์อันหลากหลายของชีวิตตนเอง ครอบครัว และชีวิตทางสังคม

260.       ดังนั้น การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่จึงถูกกำหนดให้เป็นกระบวนการเรียนรู้ส่วนบุคคลและชุมชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งปัญญาแห่งความเชื่อ “จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึง...มาตรฐานความสมบูรณ์ของพระคริสตเจ้า” (อฟ 4:13) ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการสอนคำสอนกับผู้ใหญ่คือการอบรมและการเติบโตของชีวิตในพระจิตเจ้า ตามหลักการของความค่อยเป็นค่อยไปและความก้าวหน้า เพื่อให้สารของพระวรสารที่ได้รับจากการสอนคำสอนผู้ใหญ่มีพลังในการเปลี่ยนแปลง และด้วยเหตุนี้จึงมีความสามารถในการทำให้เป็นเครื่องหมายในชีวิตส่วนตัวและสังคม ในการวิเคราะห์สุดท้าย  การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่จะบรรลุเป้าหมายเมื่อทำให้ผู้ใหญ่เองสามารถรับประสบการณ์แห่งความเชื่อของตนเองไว้ในมือ  และปรารถนาที่จะเดินทางต่อไปและเติบโตต่อไป

261.       งานทั่วไปของการสอนคำสอนกับผู้ใหญ่ต้องได้รับการกำหนดองค์ประกอบโดยอ้างอิงถึงบุคคลประเภทต่างๆ และประสบการณ์ทางศาสนาที่เป็นข้อสงสัย ในความเป็นจริง  งานเฉพาะที่ตามมา  ซึ่งอาจสอดคล้องกับการจัดเรียงตามลำดับเวลา  แสดงให้เห็นตามความเป็นจริงถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในส่วนของชุมชนของพระศาสนจักรที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ใหญ่  พยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์ในการดำรงอยู่ของพวกเขาอย่างเป็นรูปธรรม และให้การสอนคำสอนเองเป็นการรับฟังความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา งานเฉพาะของการสอนคำสอนกับผู้ใหญ่มีดังนี้

              ก. เพื่อดึงเอาความเชื่อออกมา ส่งเสริมการเริ่มต้นใหม่ของประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความเชื่อและใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรมนุษย์และชีวิตฝ่ายจิตที่ไม่มีวันดับลงในส่วนลึกของทุกคน ในมุมมองของการเริ่มต้นใหม่โดยอิสระและเป็นส่วนตัว ของแรงจูงใจที่เริ่มต้นในแง่ของการดึงดูด ความพอใจและความมุ่งมั่น

              ข. เพื่อชำระล้างความเชื่อให้บริสุทธิ์จากอคติ การเข้าใจผิด หรือการเป็นตัวแทนทางศาสนาที่ผิดพลาด  ช่วยให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงข้อจำกัดของ
สิ่งเหล่านี้ และตัดสินใจที่จะแสวงหาการกลั่นความเชื่อที่แท้จริงให้มากขึ้น ในมุมมองของการเดินทางสู่ความสมบูรณ์ของชีวิตซึ่งพระวรสารเรียกร้อง

              ค. เพื่อหล่อเลี้ยงความเชื่อ ขอบคุณส่วนหนึ่งของประสบการณ์ความสัมพันธ์ของพระศาสนจักรที่มีความหมาย ส่งเสริมการอบรมมโนธรรมของคริสตชนให้เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถให้เหตุผลสำหรับความหวังของพวกเขา และพร้อมสำหรับการสนทนาที่สงบเงียบและชาญฉลาดกับวัฒนธรรมร่วมสมัย

              ง. เพื่อช่วยแบ่งปันและเป็นประจักษ์พยานของความเชื่อ เป็นการเตรียมพื้นที่แห่งการแบ่งปันและการรับใช้ในพระศาสนจักรและในโลก  ในฐานะเป็นวิธีการตระหนักถึงหน้าที่ในการแสดงถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า

การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่ โดยสรุป  คือมีหน้าที่ร่วมทางไปกับพวกเขาและสร้างลักษณะตามแบบฉบับของคริสตชนที่เติบโตจนเป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อ เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า ภายในชุมชนคริสตชนที่สามารถสร้างชุมชนเองในการออกไป หมายความว่าสอดแทรกอยู่ในความเป็นจริงทางสังคมและวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์ในการเป็นประจักษ์พยานของความเชื่อและนำพระอาณาจักรของพระเจ้าให้เผยแผ่ออกไป

262.       เพื่อให้การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่มีความหมาย   และสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จึงควรพิจารณาเกณฑ์บางประการ

              ก. เป็นพื้นฐานของการสอนคำสอนนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ธรรมทูตของช่วงสมัครเรียนคำสอน ควรเป็นการแสดงออกของชุมชนของพระศาสนจักรในการสอนคำสอนทั้งครบ เหมือนครรภ์แห่งความเชื่อ เนื่องจากชุมชนคริสตชนเป็นองค์ประกอบเชิงโครงสร้างของกระบวนการคำสอนสำหรับผู้ใหญ่ และไม่เพียงแต่ทิศทางเท่านั้น  แต่จำเป็นที่จะต้องสามารถฟื้นฟูได้ ยอมให้ผู้ใหญ่ได้รับการท้าทายในกระบวนการคำสอนเองในปัจจุบันและความสนใจเฉพาะของพวกเขา รวมทั้งเป็นสถานที่ต้อนรับ การมีอยู่ และการสนับสนุนพวกเขา

              ข. เนื่องจากการสอนคำสอนของผู้ใหญ่ถูกกำหนดขึ้นเป็นกระบวนการศึกษาของชีวิตคริสตชนอย่างครบถ้วน สิ่งสำคัญคือต้องเสนอประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมและเป็นลักษณะเฉพาะของชีวิตแห่งความเชื่อ (การสำรวจพระคัมภีร์และหลักคำสอน ช่วงเวลาของชีวิตฝ่ายจิตและการปฏิบัติกิจศรัทธาประชานิยม ประสบการณ์ของความเป็นพี่น้องกันของพระศาสนจักร งานธรรมทูตของการปฏิบัติกิจเมตตาและการเป็นประจักษ์พยานในโลก...) ที่อาจสอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของมนุษย์ในด้านความรัก ความคิด และความสัมพันธ์

              ค. ผู้ใหญ่จะต้องไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นผู้รับการสอนคำสอน แต่เป็นผู้เข้าร่วมพร้อมกับครูคำสอนเองด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินการต้อนรับผู้ใหญ่ด้วยความเคารพในฐานะบุคคลที่ได้รับการพัฒนาประสบการณ์ และมีความเชื่อมั่นในระดับความเชื่อเช่นกัน และเป็นผู้ที่สามารถใช้เสรีภาพของเขาได้  มีการพัฒนาความเชื่อมั่นใหม่ๆ ในการเสวนา

               ง. การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่ควรใส่ใจในการรับรู้สถานการณ์ของพวกเขาในฐานะชายและหญิง พิจารณาความเป็นเอกลักษณ์ที่แต่ละคนใช้ชีวิตจากประสบการณ์ของความเชื่อ ยิ่งกว่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงสภาพทางโลกของผู้ใหญ่ ผู้ที่ได้รับเรียกด้วยศีลล้างบาป เพื่อ“แสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าโดยการมีส่วนร่วมในกิจการทางโลกและสอนพวกเขาตามแผนการของพระเจ้า” (LG 31)

               จ. เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีส่วนร่วมในการประสานงานของการสอนคำสอนของผู้ใหญ่กับการอภิบาลครอบครัวและเยาวชนเป็นพิเศษ  และมิติอื่นๆ ของชีวิตแห่งความเชื่อ ประสบการณ์ในพิธีกรรม รับใช้ในงานเมตตาจิต มิติวัฒนธรรมทางสังคม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเอกภาพแห่งการอภิบาลของพระศาสนจักร

263.       ในการสอนคำสอนมีบทบาทที่แน่ชัดสำหรับตำแหน่งของครูคำสอนผู้ซึ่งอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมทางและในขณะเดียวกันก็อยู่ในฐานะนักการศึกษาที่สามารถสนับสนุนพวกเขาในกระบวนการเติบโตส่วนบุคคล  การเป็นเพื่อนร่วมทางสำหรับผู้ใหญ่ แม้ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่จริงใจ รักษาท่าทีทางการศึกษาที่มีต่อพวกเขาอย่างมีสติด้วยความตั้งใจที่จะอำนวยความสะดวกให้พวกเขามีความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า ความสัมพันธ์กับพระศาสนจักรอย่างมีความหมาย  และทางเลือกของการเป็นประจักษ์พยานแบบคริสตชนในโลก  ในช่วงเวลาที่เหมาะสม  เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีความสามารถในการหลีกทาง ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมเป็นบุคคลแรกของความรับผิดชอบในการเดินทางแห่งความเชื่อของตนเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ครูคำสอนสำหรับผู้ใหญ่จะต้องได้รับการคัดเลือกอย่างรอบคอบและพร้อมสำหรับการปฏิบัติศาสนบริการที่ละเอียดอ่อนนี้โดยทางการอบรมอย่างเฉพาะเจาะจง

264.       การสอนคำสอนกับผู้ใหญ่นำเสนอตัวเองในรูปแบบที่หลากหลายและมีการให้ความสำคัญที่แตกต่างกันมาก

          -  การสอนคำสอนฐานะเป็นการเริ่มต้นอย่างแท้จริงในความเชื่อ หรือการเป็นเพื่อนร่วมทางกับผู้สมัครรับศีลล้างบาปและศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มชีวิตคริสตชนโดยทางประสบการณ์ของการสอนผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน

          -  การสอนคำสอนฐานะเป็นการเริ่มต้นใหม่ในความเชื่อ หรือการเป็นเพื่อนร่วมทางกับผู้ที่แม้ว่าพวกเขาได้รับศีลล้างบาปแล้ว แต่การเริ่มเข้าสู่ชีวิตคริสตชนยังไม่สมบูรณ์ หรือยังไม่ได้รับการประกาศข่าวดี

          -  การสอนคำสอนฐานะเป็นการค้นพบความเชื่ออีกครั้งโดยทาง “ศูนย์การรับฟัง” หรือแนวทางอื่นๆ หรือการนำเสนอในการประกาศข่าวดีสำหรับผู้ที่เรียกได้ว่าหลุดลอยไป

          -  การสอนคำสอนของการประกาศความเชื่อในสภาพแวดล้อมของชีวิต ของการทำงาน ของการพักผ่อนหย่อนใจ หรือในโอกาสของงานแสดงความศรัทธาประชานิยม หรือการจาริกไปยังสักการสถานต่างๆ

          -  การสอนคำสอนกับคู่สามีภรรยาในโอกาสแต่งงานหรือในงานฉลองศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของลูกๆ ซึ่งบ่อยครั้งจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับประสบการณ์ทางด้านคำสอนต่อไป

          -  การสอนคำสอนเพื่อการสำรวจความเชื่อบนพื้นฐานของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เอกสารที่เป็นการสอนของพระศาสนจักร หรือชีวิตของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ และประจักษ์พยานแห่งความเชื่อต่างๆ

          -  การสอนคำสอนในพิธีกรรม  ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการมีส่วนร่วมอย่างตั้งใจในการเฉลิมฉลองของชุมชน

          -  การสอนคำสอนเกี่ยวกับศีลธรรม วัฒนธรรม หรือประเด็นทางสังคมการเมือง ที่มีจุดมุ่งหมายไปที่การมีส่วนร่วมในชีวิตของสังคม เพื่อให้สิ่งนี้เกิดความกระตือรือร้นและได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อ

          -  การสอนคำสอนในขอบเขตของการอบรมในรูปแบบเฉพาะของผู้ทำงานด้านการอภิบาล ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับการเดินทางแห่งความเชื่อ

265. ในที่สุด สมาคมของพระศาสนจักร กระบวนการหรือกลุ่มต่างๆ ควรยอมรับเพื่อการมีส่วนแบ่งปันในการอบรมผู้ใหญ่ที่เป็นคริสตชน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการร่วมกันก้าวเดินที่คงที่และหลากหลาย เป็นสิ่งสำคัญที่ความเป็นจริงเหล่านี้มักจะนำเสนอชีวิตคริสตชนที่เป็นการพบปะส่วนตัวและการดำรงอยู่กับพระบุคคลของพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ในบริบทของประสบการณ์ กลุ่มและความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง ในความเป็นจริง กลุ่มเล็กๆ นำเสนอการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตที่ง่ายขึ้นและการสร้างความสัมพันธ์ฉันพี่น้องและฉันท์มิตร  กลายเป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับการส่งผ่านความเชื่อจากบุคคลสู่บุคคล^[29]

^[28] CT 44.

^[29] Cf  EG 127-129.