วันพระคัมภีร์
ถึงผู้ที่อาจจะสนใจ
เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาผมได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของคุณเอสเธอร์ ชาวแอฟริกาใต้ จากประเทศไอโวรี โคสท์ ซึ่งผมไม่ได้รู้จักกับเธอมาก่อน ข้อความในจดหมายเธอเล่าว่าได้แต่งงานกับสามี อยู่ด้วยกันมา 11 ปี แต่ไม่มีลูก สามีได้ทำงานที่สถานฑูตแอฟริกาใต้ ในไอโวรี โคสท์ เป็นเวลา 9 ปี ได้ล้มป่วยเพียง 4 วัน และเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองเป็นคริสต์นิกายโปสแตสแตนท์
เมื่อสามีจากไป เธอได้รับมรดกจำนวนประมาณ 900 ล้านบาท แต่แพทย์แจ้งให้เธอทราบว่า เธอเป็นมะเร็งจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน เธอจึงส่งจดหมายไปสถาบันศาสนา ต้องการบริจาคเงินช่วยเหลืองานสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
และการประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ผู้ที่สนใจ
ทั้งนี้เธอเชื่อสิ่งที่พระเป็นเจ้าสอนว่า "ผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี ย่อมเป็นสุข" เธอไม่ต้องการใช้มรดกในเรื่องทางโลก ต้องการให้มีประโยชน์ช่วยเหลือสังคมดังกล่าวและปรารถนาให้มีคนภาวนาให้เธอ เธอไม่กลัวตาย เพราะทราบว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน เธอมั่นใจว่าพระดูแลอยู่ ดังที่มีกล่าวในพระคัมภีร์อพยพ บทที่ 14:14 ว่า"พระเจ้าทรงต่อสู้แทนข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะมีสันติสุข" บทสดุดีที่ 23 กล่าวว่า "พระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงข้าพเจ้าชีวิตของเรา จะมีความสุข หากเราดำเนินชีวิตที่เหมาะสมกับการเป็น
คริสตชน ใครต้องการรับใช้พระเจ้าให้รับใช้พระองค์ด้วยใจบริสุทธิ์" ผมแปลกใจมากที่ได้รับจดหมายฉบับนี้
จึงเขียนมาแบ่งปันท่านผู้อ่านถึงความรู้สึกที่คุณเอสเธอร์รักพระวาจาและเมื่อถึงวันพระคัมภีร์ หรือ สัปดาห์ส่งเสริมการอ่านพระคัมภีร์ ผมดีใจที่คณะกรรมการพรคัมภีร์มีโครงการรู้รักพระคัมภีร์และโครงการผู้หว่าน ที่มีผู้สนใจเรียนอยู่ 17 คน
ต้องใช้
เวลาเรียนพระคัมภีร์ 38 วัน ณ บ้านผู้หว่าน ขณะนี้มีบริการพระคัมภีร์ทางไปรษณีย์ ในเขตราชบุรี จันทบุรี กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี ท่าแร่ อุดรฯ อุบลฯ ฯลฯ และที่สำคัญได้พยายามแปลพระคัมภีร์ โดยมีผู้ให้การสนับสนุนจนสามารถจัดพิมพ์พระธรรมใหม่ (รวมเล่ม) ได้สำเร็จจำนวนหนึ่งหมื่นเล่ม ในวันพระคัมภีร์นี้
แล้วคุณล่ะ สนใจพระคัมภีร์บ้างไหม?
(อุดมสารรายสัปดาห์ ฉบับที่ 49, 1-7 ธ.ค. 2002)
|