วัยรุ่นไทยพันธุ์ใหม่
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะได้ทุนสนับสนุนการวิจัยหัวข้อ " เด็กไทยพันธุ์ใหม่ วัตถุนิยม ยาเสพติด เพศเสรี " โดยสำรวจกลุ่มเยาวชน อายุ 13 - 20 ปี โดยการไปสัมผัสในเขตกรุงเทพฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยเฝ้าติดตามเด็กกลุ่มเสี่ยงที่เที่ยวกลางคืน ติดยาเสพติด ฯลฯ เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน
" ผลการวิจัยพบว่า เด็กพันธุ์ใหม่นิยมเสพยาบ้า เพราะเชื่อว่าทำให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น ทำให้สบายใจ
ทำงานได้ เที่ยวได้
จะไม่คิดอะไรมาก เพราะอยากลืมความทุกข์ อยากดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ สูบบุหรี่
เยาวชนรุ่นใหม่มีลักษณะ ขี้เหงา อยู่กับตัวเองไม่ได้ ชอบพูดโทรศัพท์มือถือนานๆ ต้องออกนอกบ้าน ไม่มีความเชื่อมั่นตนเอง มีความอ่อนแอทางจิตใจ
รอคอยความสุขไม่เป็น ต้องการความรวดเร็ว ขาดความยับยั้งชั่งใจ ตัดสินใจง่ายบนพื้นฐานความสุขด้วยการเสพวัตถุสิ่งของราคาแพง ใช้ยาเสพติด และเพศ เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องสิ่งต่างๆ ไม่อดทนกับความทุกข์ ทำงานหนักไม่เป็น อ่อนแอ ขี้เกียจ ชอบสบาย ไม่ชอบเรียนหนังสือ ชอบมั่วสุมกันอยู่แต่ในกลุ่มที่ไม่มีงานทำ หรือเด็กที่ไม่ไปโรงเรียน
สำหรับ ภูมิหลังครอบครัว ของเด็กกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่แตกแยก ขาดความอบอุ่น พ่อแม่ติดเหล้า เล่นการพนัน ชอบบ่น ทะเลาะวิวาท เก็บกด ทุบตีลูก ลูกพึ่งพ่อแม่ไม่ได้ ปรนเปรอลูกด้วยวัตถุ ไม่มีเวลาให้กัน เด็กเหล่านี้จะเชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อพ่อแม่ อีกทั้งยังไม่มีรากของวัฒนธรรมไทย ลืมกำพืดตัวเอง ขาดความสัมพันธ์อันดีกับระบบครอบครัว การแสดงเอกลักษณ์ในวิถีชีวิตไทย การกิน การนอน การปฏิบัติตนล้วนเบี่ยงเบนเข้าสู่สังคมวัฒนธรรมตะวันตก และญี่ปุ่นมากขึ้นตามลำดับ "
" นอกจากนี้เด็กพันธ์ใหม่จะบรรลุทางเพศ เร็วกว่าวัยที่ควรจะเป็น ชอบเลียนแบบ
อยากรู้อยากเห็น ดูวีดีโอ ซีดีเถื่อน หนังสือโป๊ ลามก
เสี่ยงต่อการเป็นเอดส์ มีการตั้งท้องก่อนวัยอันควร "
"เด็กพันธุ์ใหม่ จะไม่เคยพูดเรื่องศาสนา ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ ไม่ใส่ใจการทำบุญ
มองเหตุผลเข้าข้างตนเอง เคารพตนเองน้อยลงตามลำดับ รวมทั้งยังมีความคิดแบบเสรี ปล่อยเนื้อปล่อยตัว"
มันน่ากลัวนะครับ ที่ มติชน (8 ก.ค. 2544) ขึ้นหน้าแรกว่า พฤติกรรมแบบนี้ระบาดกว่าครึ่งประเทศ ในหน้าที่ 17 นายสมพงษ์ให้เหตุผลว่า " เพราะสถาบันครอบครัว การศึกษา ชุมชนอ่อนแอลงตามลำดับ
หากรัฐบาลยังไม่เอาจริงเอาจังจะแก้ปัญหา สภาพสังคมไทยจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ จะประสบปัญหาไม่มีคนที่มีคุณภาพ
จะไม่มีความน่าเชื่อถือ สังคมจะมีแต่ความเกลียดชัง การเอาตัวรอด "
เราต้องช่วยกัน
ผมเปิด คู่มือแนะแนวทั่วไปสำหรับการสอนคำสอน มีกล่าวอยู่แล้วว่า "จริงๆ แล้วมีเด็ก และเยาวชนที่ขาดแรงหนุนด้านศาสนาอันเหมาะสมภายในครอบครัว เพราะพวกเขาไม่มีครอบครัวที่แท้จริง หรือเพราะว่าพวกเขาไม่ได้เข้าโรงเรียน หรือเพราะว่าพวกเขาเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากสภาพสังคมไร้ระเบียบ หรือจากภาวะแวดล้อมอื่นๆ
เป็นความรับผิดชอบของกลุ่มคริสตชนที่จะต้องช่วยกู้สถานการณ์แบบนี้ โดยการจัดหาผู้ที่ใจกว้าง เชี่ยวชาญ และ เอาจริงเอาจัง โดยหาทางจัดเสวนากันระหว่างครอบครัวต่างๆ โดยการนำเสนอรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสม และหาวิธีสอนคำสอนที่สอดคล้องกับความสามารถ และความต้องการแท้จริงของพวกเขา" (ข้อ 180)
ผมนำเรื่องนี้มาคุยกับนักศึกษาวิทยาลัยแสงธรรม ภาควิชาคริสตศาสตร์ ปี 2 มีความเห็นว่าต้องช่วยกัน จากญาติพี่น้องใกล้ตัว ครับ
" จงช่วยจุดเทียนสักเล่ม ดีกว่าด่าแช่งความมืด "
(อุดมสารรายสัปดาห์ ฉบับที่ 31, ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2001)
|