ฟิลิป คอสลอสกี้ (Philip Kosloski) - เผยแพร่เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2018

ชีวิตฝ่ายวิญญาณคือการต่อสู้  นี่คือวิธีการต่อสู้

ชีวิตฝ่ายวิญญาณคือการต่อสู้  ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้กับความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของเราเท่านั้น แต่ยังต่อสู้กับพลังทางวิญญาณที่ชั่วร้ายของโลกนี้ด้วย  นักบุญยอห์น ปอลที่ 2 เตือนเราเกี่ยวกับความเป็นจริงนี้ เมื่อได้เยือนมอนเต การ์กาโน (ประเทศอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1987

การต่อสู้กับมารครั้งนี้ … ยังคงดำเนินต่อไป เพราะมารยังมีชีวิตอยู่และทำงานอยู่ในโลกนี้ ความจริงแล้ว ความชั่วร้ายที่อยู่ในนั้น  ความผิดปกติที่เราเห็นในสังคม การนอกใจของมนุษย์  ความแตกแยกภายในที่เขาตกเป็นเหยื่อ ไม่เพียงเป็นผลมาจากบาปกำเนิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบของความมืดและการแพร่ระบาดกิจกรรมของซาตาน ผู้ก่อวินาศกรรมต่อดุลยภาพทางศีลธรรมของมนุษย์

วิธีหลักอย่างหนึ่งที่ซาตานพยายามขัดขวางชีวิตเราคือการล่อลวง ล่อลวงเราให้ออกห่างจากพระเจ้าและเดินไปตามทางมืดที่นำไปสู่การทำลายล้าง

ข่าวดีก็คือพระเจ้าได้เตรียมอาวุธและชุดเกราะให้เราพร้อมที่จะต่อสู้กับศัตรู  อย่างไรก็ตาม  เราจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อให้เราได้รับชัยชนะร่วมกับพระคริสต์ในการต่อสู้กับมารร้าย

ต่อไปนี้เป็นวิธีสี่อันดับแรกในการเอาชนะการล่อลวงของมาร ตามที่พระศาสนจักรและผู้ขับไล่ปีศาจต่างๆบรรยายไว้

ฝึกการพินิจพิเคราะห์ในการสวดภาวนา
คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกอธิบายว่า  “พระจิตเจ้าทำให้เราแยกแยะระหว่างการทดลองซึ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตของมนุษย์ภายใน และการล่อลวงซึ่งนำไปสู่บาปและความตาย  เราต้องแยกแยะระหว่างการถูกล่อลวงและการยินยอมต่อการล่อลวง  ในที่สุด  การพินิจพิเคราะห์จะเปิดเผยความเท็จของการล่อลวง ซึ่งวัตถุที่ดูเหมือนจะดี เป็น ‘ความเพลิดเพลินตา’ และน่าปรารถนา  ทั้งที่ความจริงแล้วผลของมันคือความตาย พระเจ้าไม่ทรงต้องการบังคับคนดี แต่ทรงต้องการสิ่งมีชีวิตอิสระ … การล่อลวงมีประโยชน์บางประการ ไม่มีใครนอกจากพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าวิญญาณของเราได้รับอะไรจากพระองค์ แม้แต่ตัวเราเอง  แต่การล่อลวงเปิดเผยเพื่อสอนเราให้รู้จักตนเอง  และด้วยวิธีนี้  เราจะค้นพบความโน้มเอียงที่ชั่วร้ายของเรา และจำเป็นต้องขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่การทดลองได้เปิดเผยแก่เรา”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราต้องรู้จักการล่อลวงก่อนและขุดลึกลงไปเพื่อค้นหารากฐานของมันทั้งหมด หากเราไม่พบต้นตอที่ต้องรักษา เราจะไม่สามารถละทิ้งการทดลองได้อย่างเต็มที่ ด้วยวิธีนี้  พระเจ้าทรงยอมให้การล่อลวงเปิดเผยความอ่อนแอของเรา  เพื่อที่เราจะเข้าใจว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

สร้างชีวิตการภาวนาโดยเจตนาและเป็นระเบียบ
ซาตานชอบความยุ่งเหยิงและจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางชีวิตการภาวนาของเรา  ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดกิจวัตรการสวดภาวนา  ซึ่งไม่เพียงแค่สวดเมื่อจำได้เท่านั้น  แต่ยังสวดตามเวลาและระยะเวลาที่กำหนดด้วย ด้วยวิธีนี้  เราแสดงต่อพระเจ้าถึงลำดับความสำคัญของเราและขับไล่ซาตานออกไปจากชีวิตของเรา ผู้ขับไล่ปีศาจมักแนะนำให้คนที่ถูกสิง สร้างนิสัยทางวิญญาณที่สอดคล้องกันเพื่อป้องกันการล่อลวงของซาตานในอนาคต

รับศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาปบ่อยๆ
บาปทำให้เกิดบาปมากขึ้นและเมื่อเราเริ่มลงเนินที่ลื่นของบาป  มันก็หยุดยาก  ของประทานอันยิ่งใหญ่แห่งการสารภาพบาปในพระศาสนจักรคาทอลิกช่วยให้เราเริ่มต้นใหม่อีกครั้งและนำความอ่อนแอและความล้มเหลวของเราเข้าเฝ้าพระเจ้า  พระองค์ทรงเป็นหมอที่ศักดิ์สิทธิ์และสามารถรักษาเราด้วยยาหม่องแห่งความเมตตาของพระองค์

หลังจากที่เราคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักรแล้ว ผู้ขับไล่ปีศาจจะสนับสนุนให้จิตวิญญาณรับศีลมหาสนิทมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นักบุญโทมัส อไควนัสยืนยันว่าศีลมหาสนิทเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการต่อต้านการล่อลวงของซาตาน ในหนังสือซุมมา เธโอโลยีกา (Summa Theologiae)  เมื่อท่านเขียนว่า “ [ศีลมหาสนิท] ขับไล่การจู่โจมของปีศาจ ดังนั้นนักบุญคริสซอสตอม  จึงกล่าวว่า: ‘เหมือนสิงโตพ่นไฟ  เราออกจากโต๊ะนั้นโดยทำให้ปีศาจกลัว’

เรียกพระนามของพระเยซู
เมื่อเรารู้สึกท่วมท้นไปด้วยการทดลอง  เราควรร้องหาพระเจ้าโดยเรียกพระนามของพระเยซู ดังที่นักบุญเปาโลเขียนไว้ว่า “เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพจะย่อเข่าลงนมัสการพระนามพระเยซู”  (ฟีลิปปี 2:10)  มีเรื่องราวนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับบรรดานักบุญที่เมื่อถูกซาตานล่อลวง  ก็แค่เรียกพระนามของพระเยซูซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าการทดลองจะสงบลง  เป็นวิธีเรียบง่ายแต่ทรงพลังในการคงความสัตย์ซื่อต่อพระคริสต์ท่ามกลางแรงกระตุ้นที่รุนแรงที่จะขัดต่อพระบัญญัติของพระองค์

 ++++++++++
 ฟ. วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล (20 กพ. 2023)

คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม
อาคารเลขที่ 122/11 ซ.นนทรี 14 (ซ.นาคสุวรรณ)  ถ.นนทรี  ยานนาวา  กรุงเทพฯ 10120