หากความรักคือการเสียสละ  และการเสียสละทุกอย่างในทัศนะของโลกคือความโง่  พระเยซูคริสตเจ้าบนไม้กางเขนต้องถูกถือว่า  เป็นความ  โง่เขลาสูงสุดในทัศนะของโลก พระองค์คือคนล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ พระองค์ทนทุกข์ทรมานจากการพ่ายแพ้ที่สุด

คนรับใช้ไม่ยิ่งใหญ่กว่านายของตน

ประการแรก  พระเยซูเจ้าไม่สามารถชนะ และไม่สามารถรักษาเพื่อน 

เปโตร  หัวหน้าอัครสาวกปฏิเสธพระองค์ต่อหน้าหญิงรับใช้ (มก  14:66-68)

ยอห์น  ผู้เคยอิงศีรษะแนบอกพระองค์  หนีเมื่อพระองค์ถูกจับ (มก  14:50-51)

ยูดาส  อิสคาริโอท  ขายพระองค์ด้วยเงิน  30 เหรียญ (มธ  26:14-16)

การไตร่สวน 4 ครั้ง  ต่อหน้าผู้พิพากษาทั้ง 4  ไม่มีใครเป็นพยานว่าพระองค์บริสุทธิ์ ไม่มีเพื่อน  พระองค์ประสบความสำเร็จหรือ  ยิ่งกว่านั้น  ประชาชนบางคนตั้งคำถาม  หากพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า ทำไมไม่พยายามเอาชนะใจปอนทิอัส  ปิลาต เมื่อเขาถาม  “เรามีอำนาจปล่อย  ท่านก็ได้  จะตรึงกางเขนท่านก็ได้”  (ยน 19:10) แต่พระองค์ไม่ทำ

หากพระเยซูเจ้ามีอำนาจจริง  ทำไมไม่จัดการกับคนที่ดูถูกเหยียดหยาม  (มก 15:16-20)  ทำไมพระองค์ไม่ทำอัศจรรย์จัดการพวกนั้นให้อยู่มือ ทำไมยอมให้พวกเขานำพระองค์ไปตรึงกางเขน  (มก 15:21) ทำไมพระองค์ทำอัศจรรย์รักษาคนตาบอดให้เห็น คนหูหนวกให้ได้ยิน  ทำไม ยอมให้ทหารตอกตรึงพระองค์ โลกถือว่าโง่

ถ้าพระองค์พิสูจน์ว่าทรงเป็นพระเจ้า เสด็จลงมาจากไม้กางเขน  เราจะเชื่อ  (มธ 27:42) ทำไมพระองค์ไม่ก้าวลงมาในฐานะกษัตริย์ประทับ บนบัลลังก์ โลกถือว่าโง่ พระเจ้าถูกตรึงกางเขน พระองค์ประสบความล้มเหลว

ดังนั้น  ใครที่รักพระคริสตเจ้าที่ถูกตรึงกางเขน ต้องมีส่วนในความโง่แบบพระองค์  ศิษย์ย่อมไม่ใหญ่กว่าอาจารย์ โลกถือว่าโง่ ใครที่สละความร่ำรวยและเพื่อน  เหล้าและดนตรี มาเข้าอาราม  เข้าบ้านเณร สละเสื้อผ้าหรูๆ  มาใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ  และมีวินัย  หากใครตบแก้มขวา จงยื่นแก้มซ้ายอีก (มธ  5:39)

โลกถือว่าโง่ ใครที่ถือกฎของพระศาสนจักร  เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตครอบครัว และปฏิเสธความคิดสมัยใหม่ ที่ยกย่องความสำส่อน  และการทำอะไรตามใจ ใครที่แขวนไม้กางเขนแห่งการพลีกรรม  เมื่อเขาสามารถลงมาจากกางเขน และจับสลากกับทหารเพื่อเอาฉลองพระองค์ ได้  (เทียบ  มก  15:24 = ผลประโยชน์ฝ่ายโลกนี้)  แต่ไม่ทำ  โลกถือว่าโง่

ใช่  แต่ “ความโง่ของพระเจ้าย่อมดีกว่าความฉลาดของมนุษย์ ความฉลาดของโลกเป็นความโง่ในสายตาพระเจ้า” (1 คร  3:19) ในสายตาของโลกถือว่าเราเป็นคนโง่ เหมือนพระเยซูเจ้านายของเราอยู่ต่อหน้ากษัตริย์เฮโรด (มก  14:53) นักบุญเปาโลสอนว่า  “เราเป็นคนโง่เพราะ เห็นแก่พระคริสตเจ้า” (1 คร  4:10)

เยาวชนที่รัก ในสังคมของเรามีการทุจริต คอรัปชั่นมากมายในชีวิต และในชาติบ้านเมือง ยกตัวอย่าง โทรศัพท์ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว   แต่เมื่อฝนตกในประเทศไนจีเรีย รับคลื่นโทรศัพท์ยากทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ  หากใครเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อความอยุติธรรมเช่นนี้  ไม่ว่าส่วนตัว หรือส่วนรวม  คนนั้นต้องจบลงด้วยการทนทุกข์ในโรงพยาบาล ด้วยความดันโลหิตสูง  หรือจิตหลอน นี่มิได้หมายความว่า  เราต้องยอมรับพฤติกรรมอยุติธรรม แต่เราต้องชนะความชั่วด้วยความดี

พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Reflections for  Young People. Vol. 1
โดย  Rev. Fr. Raphael  Osegboun 
St. Paul Society, Mumbai, 2011. หน้า 24-26

Home

คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม
อาคารเลขที่ 122/11 ซ.นนทรี 14 (ซ.นาคสุวรรณ)  ถ.นนทรี  ยานนาวา  กรุงเทพฯ 10120