“พระสังฆราชคือเจ้าชายแห่งพระศาสนจักร” เป็นความจริงอันลึกซึ้งที่สะท้อนถึงศักดิ์ศรีและความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับตำแหน่งนี้
 
วันนี้ ข้าพเจ้ามีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีเข้ารับตำแหน่งพระอัครสังฆราชของอัครสังฆมณฑลของเรา อันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง ซึ่งย้ำเตือนถึงกระแสเรียกศักดิ์สิทธิ์ที่พระสังฆราชแต่ละองค์ได้รับ ในฐานะ “เจ้าชายแห่งพระศาสนจักร”

“พระสังฆราช” ไม่เพียงแต่เป็น “ผู้นำ” เท่านั้น หากแต่ยังเป็น “ผู้รับใช้” เป็น “ผู้ได้รับมอบหมาย” ให้ชี้นำทาง อีกทั้งปกป้อง และบันดาลความศักดิ์สิทธิ์แก่บรรดาสัตบุรุษในความดูแลของท่าน บทบาทมีที่มาซึ่งหยั่งรากลึกในพระคัมภีร์ ทั้งได้รับการเสริมสร้างจากคำสอนของบรรดาปิตาจารย์แห่งพระศาสนจักร และได้รับการส่องสว่างโดยองค์พระจิตเจ้าอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้เตือนใจให้ระลึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน และพระหรรษทานอันลึกล้ำที่แผ่ปกคลุมช่วงเวลาแห่งความศรัทธานี้

ในยุคแรกของพระศาสนจักร พระสังฆราชนั้นถือว่าเป็นผู้สืบทอดจากบรรดาอัครสาวก เพื่อดำเนินภารกิจที่พระคริสตเจ้าทรงมอบหมายแก่พวกเขา บทบาทนี้มาพร้อมกับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง ได้แก่ การสั่งสอนความเชื่อ การเสริมสร้างเอกภาพ และการนำทางมวลสัตบุรุษด้วยปรีชาญาณและความสุภาพถ่อมตน

ในฐานะเจ้าชาย พระสังฆราชมิได้ปกครองด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จ หากแต่ปกครองด้วยหัวใจของนายชุมพาบาล เป็นทั้งผู้นำและผู้รับใช้ คอยดูแลให้ฝูงแกะให้ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักของพระคริสตเจ้า คำสอนของสภาสังคายนาวาติกัน ครั้งที่ 2 ในสังฆธรรมนูญเรื่องพระศาสนจักร (Lumen Gentium) สะท้อนความจริงข้อนี้อย่างลึกซึ้งว่า “พระสังฆราช ในฐานะเป็นผู้แทน และทูตของพระคริสตเจ้า ทำหน้าที่ปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นที่ได้รับมอบหมายในฐานะผู้เลี้ยงที่แท้จริง โดยได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาพระสงฆ์ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานของท่าน” นี่เป็นสิ่งที่เตือนเราว่า หน้าที่ของพระสังฆราชไม่ได้เป็นไปเพื่อเกียรติยศส่วนตน หากแต่เป็นการรับใช้ประชากรของพระเจ้า

นักบุญออกัสตินกล่าวไว้ว่า “พระสังฆราชคือผู้รับใช้ของผู้รับใช้ของพระเจ้า” เป็นคำกล่าวที่สรุปแก่นแท้ของกระแสเรียกของพระสังฆราชได้อย่างชัดเจน อำนาจของท่านไม่ใช่เพื่อยกย่องตนเอง แต่เพื่อประโยชน์ของพระศาสนจักร เพื่อชี้นำสัตบุรุษไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับพระเจ้า

องค์พระเยซูคริสตเจ้าทรงสอนเราในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น บทที่ 10 ข้อที่ 11 ว่า “เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน”

พระสังฆราชถูกเรียกให้ดำเนินรอยตามพระฉบับแบบขององค์พระคริสตเจ้า ด้วยความรัก และความเสียสละ พร้อมที่จะอุทิศชีวิตเพื่อประชากรที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล ดังนั้น บทบาทของพระสังฆราช จึงมิใช่เพียงแต่ด้านการบริหาร หากแต่ยังลึกซึ้งในแง่ของการดูแลจิตวิญญาณ ท่านต้องคอยดูแลสัตบุรุษ ด้วยพระวาจาของพระเจ้าและศีลศักดิ์สิทธิ์ ทั้งคอยปกป้องพวกเขาจากความผิดพลาดและความแตกแยก

พิธีเข้ารับตำแหน่งพระอัครสังฆราชองค์ใหม่ เป็นสัญลักษณ์ที่เห็นได้ชัดถึงความต่อเนื่องของพันธกิจแห่งอัครสาวก ทั้งยืนยันถึงความไว้วางใจอันลึกซึ้งที่พระศาสนจักรมอบให้แก่พระสังฆราช ในฐานะพยานชีวิตแห่งความเชื่อ และผู้นำที่ได้รับเรียกให้นำพาสังฆมณฑลไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่เราร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้ ขอให้ระลึกถึงข้อความของท่านนักบุญเปโตร ที่เตือนบรรดาพระสังฆราชว่า “จงเลี้ยงดู

ฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน จงดูแลด้วยความเต็มใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า มิใช่ดูแลด้วยความจำใจ จงดูแลด้วยความสมัครใจ มิใช่ดูแลเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง” (1 เปโตร 5:2)

ขอให้ช่วงเวลาแห่งการรับมอบตำแหน่งพระสังฆราชนี้ เป็นโอกาสให้สัตบุรุษได้รื้อฟื้นพันธสัญญาของตนที่มีกับพระศาสนจักร ผ่านการภาวนาเพื่อพระสังฆราช จะได้มีปรีชาญาณและพละกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ และระลึกเสมอว่าภายใต้การนำของท่าน พระศาสนจักรจะก้าวเข้าไปใกล้ชิดกับดวงพระหฤทัยของพระคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้น

ขอให้อัครสังฆมณฑลของเรา เจริญรุ่งเรืองโดยการอภิบาลของพระอัครสังฆราชองค์ใหม่ ทั้งขอให้ทุกคนได้ร่วมกันเข้ามาสู่ความรัก ความเป็นหนึ่งเดียว และความศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าทรงปรารถนาในให้บังเกิดขึ้นในพระศาสนจักรของพระองค์

                                                                                                                   คุณพ่อโจเซฟ ซามานีโก บรีออเนส, PIME
                                                                                                                                                       2 มีนาคม 2025

คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม
อาคารเลขที่ 122/11 ซ.นนทรี 14 (ซ.นาคสุวรรณ)  ถ.นนทรี  ยานนาวา  กรุงเทพฯ 10120