โดย พณฯ วีระ อาภรณ์รัตน์

        บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ทรงรักเยาวชน ทรงเป็นผู้ริเริ่ม ปีเยาวชนสากล (ค.ศ. 1985)  และประกาศเมื่อวันที่  20  ธันวาคม ค.ศ. 1985  ให้วันอาทิตย์ใบลานของทุกปีคือ วันเยาวชนโลก ดังนั้น  วันอาทิตย์ใบลานปี ค.ศ. 1986  จึงนับเป็ นวันเยาวชนโลกครั้งแรก  และการชุมนุมเยาวชนโลกระหว่างวันที่  10-23 สิงหาคม  ค.ศ. 2011 ณ  กรุงมาดริด  ประเทศสเปน  เป็นครั้งที่  26  และมีหนังสือคำสอนเยาวชน (Youth Catechism - YOUCAT)  ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาเยอรมัน เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010  จากสภาพระสังฆราชออสเตรีย  มีการแปลเป็นภาษาอิตาเลียน อังกฤษ ฯลฯ โดยสมณกระทรวงเรื่องพระสัจธรรม – พระสงฆ์  และฆราวาส ได้รับรองเมื่อ 6  ธันวาคม ค.ศ. 2010  สำหรับเยาวชนในการชุมนุมเยาวชนโลกครั้งนี้

        พระคาร์ดินัลคริสตอฟ  เชิญบอน (Christoph Cardinal Schoenborn)  เป็นผู้เขีย น  Ignatius  Press หนา 330  หน้า  ราคา  510 บาท  เป็นลักษณะถาม-ตอบ จำนวน  527  ข้อ มีการอ้างอิงจากหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (ค.ศ. 1997) อ้างพระ คัมภีร์  มีรูปภาพประกอบและดัชนีเนื้อหา เพื่อผู้ที่สนใจจะได้ค้นคว้าเพิ่มเติมให้ลึกซึ้งขึ้นได้  สาระสำคัญแบ่งเป็น  4 หมวด คือ

        1. คาทอลิกเชื่ออะไร  และทำไมจึงเชื่อ?  (ข้อความเชื่อ)  มี  165 ข้อ

        2. คาทอลิกฉลองพระธรรมล้ำลึกแห่งข้อความเชื่ออย่างไร?  (พิธีกรรม – ศีลศักดิ์สิทธิ์)  มี  113 ข้อ

        3. คาทอลิกดำเนินชีวิตอย่างไร?  (ชีวิตศีลธรรม)  มี  190 ข้อ

        4. คาทอลิกภาวนาอย่างไร?  (การภาวนาและชีวิตจิต) มี 59 ข้อ

        สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ได้ทรงกล่าวในคำนำของหนังสือคำสอนเยาวชนว่า  “ในการชุมนุมเยาวชนโลกที่กรุงโรม โตรอ นโต  โคโลญ ซิดนีย์  เยาวชนจากทั่วโลกมาชุมนุมกัน เยาวชนต้องการเชื่อ ต้องการแสวงหาพระเจ้า พวกเขารักพระคริสตเจ้า  และต้องกา รมิตรภาพ เราจึงควรแปลหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  เป็นภาษาสำหรับเยาวชนมิใช่หรือ เราควรนำมรดกยิ่งใหญ่ให้เยาว ชนปัจจุบันมิใช่หรือ  ดังนั้นพระอัครสังฆราชคริสตอฟ  เชิญบอน แห่งกรุงเวียนนา  (ออสเตรีย)  จึงได้เขียนหนังสือเล่มนี้สำหรับเยาวชน พ่อหวังว่าบรรดาเยาวชนจะติดใจหนังสือเล่มนี้”

         “หลายคนกล่าวกับพ่อว่า  เยาวชนสมัยนี้ไม่สนใจศาสนา พ่อไม่เห็นด้วย พ่อแน่ใจว่าพ่อคิดถูก เยาวชนสมัยปัจจุบันไม่ใช่คนผิวเผิน  บ างคนชอบคิด พวกเขาต้องการรู้ความหมายของชีวิต จุดมุ่งหมายของชีวิต  (ตายแล้วไปไหน)  หนังสือเล่มนี้จึงน่าสนใจ  เพราะพูดถึงจุดมุ่งหมายของตนเอง และเกี่ยวข้องกับเราทุกคน

         พ่อจึงขอเชิญลูกศึกษาคำสอนนี้...  อาจไม่ทำให้ชีวิตของลูกสบายขึ้น  เพราะมันเรียกร้องลูกให้ดำเนินชีวิตใหม่  ดังในพระวรสารบอกว่ าเสมือน  “พบไข่มุกที่มีค่าสูง” (มธ  13:46)  ลูกต้องให้ทุกสิ่ง ดังนั้นพ่อขอร้องลูก  จงศึกษาหนังสือคำสอนเล่มนี้ด้วยความรักและเพียรพยา ยาม  สละเวลา ศึกษาอย่างเงียบๆ ในห้อง อ่านกับเพื่อน  ตั้งกลุ่มศึกษา  แบ่งปันกันในอินเตอร์เน็ต  สนทนากันเกี่ยวกับความเชื่อของลูกด้วยสื่อทุกอย่าง

         ลูกต้องรู้ว่าลูกเชื่ออะไร  ลูกต้องรู้ถึงความเชื่อให้ชัดเจน เหมือนผู้ชำนาญ IT ที่รู้จักการทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์  ลูกต้องเข้าใจเ หมือนนักดนตรีที่ดี รู้จักเครื่องดนตรีที่เขาเล่น ลูกต้องมีรากลึกในความเชื่อมากกว่าพ่อแม่  ผู้ปกครอง เพื่อลูกจะสามารถเผชิญสิ่งท้าทาย  และการผจญต่างๆ  ในสมัยปัจจุบันด้วยความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว

         สุดท้าย  ลูกรู้ดีว่าชุมนุมแห่งความเชื่อถูกความชั่วโจมตี  ลูกอย่าถือเป็นข้อแก้ตัว เพื่อหนีจากพระพักตร์พระเจ้า  ลูกคือสมาชิกของพระ ศาสนจักร จงนำความรักเข้ามาในพระศาสนจักร...  “จงมีจิตใจกระตือรือร้นในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า”  (รม 12:11) “อย่าพูดว่าท่านยังเ ป็นเด็ก  เราส่งท่านไปหาผู้ใด ก็จงไปเถิด เราสั่งท่านพูดอะไร ก็จงพูดเถิด” (ยรม 1:7)”

Home

คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม
อาคารเลขที่ 122/11 ซ.นนทรี 14 (ซ.นาคสุวรรณ)  ถ.นนทรี  ยานนาวา  กรุงเทพฯ 10120